เมื่อข้ากลับไปถึงห้องเพื่อจะพักผ่อนแต่คำพูดของมันที่ว่า
“ตามหาคนที่อยู่ในสภาพขาดที่พึ่งพิงเช่นเดียวกับเจ้า...”
กลับยังคงดังก้องอยู่ในหัวของข้า ขาดที่พึ่งพึ่งเช่นเดียวกับข้า หมายความว่าอย่างไรกัน?
ยังมีใครที่ขาดที่พึ่งเหมือนกับข้าอีกงั้นหรือ? ข้าหยิบเศษกระดาษและดินสอบนโต๊ะเก่าๆเพื่อเขียนรายชื่อหัวหน้ากลุ่ม
ย่อยที่น่าจะเข้าข่ายเสียประโยชน์จากการขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มกล้าคนใหม่
[ฮันนาไม่ถูกกับลูกชายของท่านตั้งแต่เสียเขตปกครองให้กลุ่มของเกลนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
โซเป็นเหมือนคนกลางช่วยลดแรงต้านจากภายในกลุ่มก็คงต้องเลือกว่าจะฝักใฝ่ฝ่ายใด
ฟัลเคยมีเรื่องกับลูกชายของท่านเพราะถูกแย่งผู้หญิง
มูร์สนับสนุนท่านมาโดยตลอด ถ้าเขารู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนั้นคือลูกชายของท่าน เขาต้องลุกขึ้นต่อต้านอย่างแน่นอน]
ในที่สุดหลังจากข้าคิดอยู่นานข้าได้เลือกที่จะติดต่อกับ ฮันนาและฟัล ทั้งสองคนมีแรงจูงใจให้เข้าร่วมกับข้ามากกว่าคนอื่นๆ โดยติดต่อกับพวกเขาผ่านทางมาสเตอร์
แม้มาสเตอร์จะอายุมากกว่า50แล้วแต่ก็ยังคงจำชื่อและหน้าได้แม่น
ในอีก2-3วันถัดมา ข้าได้ออกไปยังที่ที่นัดพบกับ“พวกเขา”
ข้าเล่าถึงเรื่องที่ข้าได้ข้อมูลมาจากพวกกลุ่มลับ ฮันนาเห็นด้วยที่จะเข้าร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงกับข้า ส่วนฟัลตอบรับตั้งแต่ที่เห็นตัวข้าแล้ว
ข้าหุบยิ้มไม่ได้หลังจากตกลงเรื่องส่วนแบ่งกับทั้งสองได้แล้ว
แผนการที่ฮันนาเสนอจะเริ่มขึ้นในอีก2วัน เพราะในวันนั้นจะมีการประชุมระหว่างกลุ่มของกลุ่มกล้าและกลุ่มคม
เหตุการณ์ในวันนั้นที่ข้าไม่ได้อยู่ แต่ครั้งนี้ข้าจะอยู่ตลอดทั้งเหตุการณ์ ข้าจะได้เห็นลูกทรพีของท่านถูกจัดการต่อหน้า แค่คิดข้าก็แทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวแล้ว
ในวันจริง แผนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น ราบรื่นเสียจนข้าคิดว่า มีใครจัดการไว้ล่วงหน้าก่อนหรือเปล่า? ไอ้บุรุษลึกลับนั่นอยู่เบื้องหลังหรือ? เพ้อเจ้อน่า มันเป็นแผนที่ฮํนนาเสนอซึ่งข้าก็เห็นด้วย
แผนการที่ว่า นั่นคือ ให้กลุ่มฟัลเป็นคนไปบอกกลุ่มคมเพื่อเปลี่ยนสถานที่นัดพบ ส่วนกลุ่มของฮันนาอาสาเป็นคนคุ้มกันลูกชายของท่าน(พวกแกคงนึกไม่ถึงสินะ ว่าฮันนายังแค้นเรื่องเมื่อปลายปีที่แล้วอยู่)
ผลที่ได้ก็ คือ ข้ายืนเหยียบยอดอกร่างไร้วิญญาณหัวหน้ากลุ่มกล้าคนล่าสุด อยู่น่ะสิ
หึหึหึหึหึ ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !!!
แต่จะว่าไปงานเก็บซาก(ศพ)ของพวกลิ่อล้อนี่มันก็ยุ่งยากพอควร แต่ข้าบอกกับพวกลูกน้องว่า
“ไม่ต้องทำหรอก เรื่องแบบนั้น เพราะข้าตั้งใจจะประกาศให้ทุกคนรู้เรื่องในวันนี้
ให้ทุกคนรู้ว่า ข้าเนี่ยแหละเป็นคนจัดการหัวหน้าคนก่อน
ข้านี่แหละที่สมควรเป็นหัวหน้ากลุ่มคนใหม่ที่แท้จริง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”
จะพูดไปก็น่าขำ เพราะเรื่องที่ไอ้บุรุษลึกลับพูด มันเกิดขึ้นจริงตอนครบหนึ่งเดือนพอดีตั้งแต่เจอมันครั้งนั้นและข้าเองทำลายข้อตกลงที่มันพล่าม
ก็จะให้รักษาสัญญาอะไรนั่นได้ยังไงกันวะ?
ในเมื่อมันคิดจะยิงข้า ข้าก็ต้องยิงมันก่อนสิ
แม้ข้าจะไม่ถนัดเรื่องกฎหมาย แต่การฆ่าคนเพื่อป้องกันตัวก็ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายไม่ใช่หรือ
ดังนั้นการที่ข้าชิงฆ่ามันก่อนที่จะถูกมันฆ่า ก็ไม่ถือว่าเป็นการผิดข้อตกลงระหว่างเราเช่นกัน
หึ...ในที่สุดข้าได้ไปยังจุดสูงสุดของกลุ่มด้วยการกวาดล้างกลุ่มเก่า
ไอ้พวกหน้ามืดตามัวพวกนั้นอยู่ไปก็รกกลุ่มเปล่าๆ จะขับไล่ไปอยู่กลุ่มอื่นก็มีแต่จะเป็นภัย
เพราะงั้นถึงต้องฆ่าพวกมันให้หมดยังไงล่ะ
ในตอนนี้ข้ามีทุกอย่างแล้ว ทั้งอำนาจ ทั้งเงิน ทั้งผู้หญิง
แต่ข้ากลับรู้สึกไม่มั่นคงอยู่ดี อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้ารู้สึกอย่างนั้นกัน...
ทั้งที่ข้าได้ทุกอย่างมาครอบครองแล้ว แต่ทุกคืนข้ากลับหลับได้ไม่สนิทเหมือนแต่ก่อน
ข้ารู้สึกระแวงไปเสียทุกอย่าง ต้องตรวจสอบสถานที่ทุกแห่งว่าจะไม่มีที่ใดให้หลบซ่อนหรือซุ่มยิง ต้องตรวจสอบของทุกอย่างก่อนที่จะเปิด...
ข้าคิดว่า ที่ข้าเป็นแบบนั้นก็เพราะข้ายังกวาดล้างพวกกลุ่มเก่าที่จงรักภักดีกับลูกชายของท่านไม่หมด ถึงต้องมานั่งระวังตัวขนาดนี้
แล้วยังมีพวกกลุ่มตำรวจที่เริ่มกล้ามายุ่งเรื่องภายในกลุ่มของข้ามากขึ้น
แต่ก็ยังดีที่กลุ่มอื่นไม่ยื่นคอมาเสือก
วันที่ข้าจะไม่ต้องพะวงเรื่องการหักหลังใกล้เข้ามาถึง นั่นก็เพราะข้าได้รับสายรายงานว่า พวกกลุ่มเก่าที่เหลือได้หนีตายไปเขตกลุ่มอื่นและถูกกำจัดไปแล้ว
ในคืนนั้นข้าทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดยักษ์แล้วหลับตาลงเพื่อคิดถึงเหตุการณ์วุ่นวายที่ผ่านมา แต่เหมือนกับว่าข้าลืมอะไรบางอย่างไป มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับข้า
ข้าลืมอะไรกัน...
ข้าลืมอะไรกันแน่...
ข้าลืมนึกถึง ไอ้บุรุษลึกลับนั่นเอง...
ข้ายังติดค้างหนี้มันในคืนนั้น ที่มันพูดว่า ความกล้าของข้าน่ะไปอยู่นอกภายจนหมดแล้ว
ความรู้สึกในวันนั้นมันย้อนมาย้ำเตือนข้าให้นึกถึงใครหลายๆคนที่เคยดูถูกดูแคลนข้าไว้
แน่นอนว่าในรายชื่อต่อจากไอ้บุรุษนั่น ก็ต้องเป็นดัสและพรรคพวกของมัน
กลุ่มคนที่รู้เรื่องของข้าในวันนั้นไม่ควรจะมีชีวิตอยู่
การที่ข้าขึ้นไปได้สูงกว่านี้ก็มีแต่ต้องจัดการพวกที่รู้ในวันนั้นของข้าให้หมด
ด้วยการกวาดล้างพวกมันให้หมดภายในคราวเดียว
แม้ข้าจะจัดการพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แต่ก็ต้องรอ รอให้ถึงคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
ข้าไม่เข้าใจ ทำไมมันถึงต้องปรากฏตัวเฉพาะคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
แต่ไม่ว่าสันดานของมันจะมีสาเหตุมาจากอะไรก็ตาม
มันก็ช่วยให้ข้าวางแผนจัดการพวกมันทั้งหมดได้ง่ายขึ้นด้วยการนัดกลุ่มลับหารือเรื่องตำรวจที่เริ่มตรวจตรากันอย่างเข้มงวดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
และเมื่อถึงคืนขึ้น15ค่ำเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงตามปฏิทินประหลาดที่นับปีตามวิถีโคจรของดวงจันทร์หรืออะไรสักอย่าง
ข้าคิดจะไปจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเองจึงสั่งฟัลดูแลแทนในช่วงที่ข้าไม่อยู่
ตอนนี้เป็นเวลา5ทุ่ม49นาที ข้านับถอยหลังอย่างใจจดใจ ณ สถานที่ๆเคยพบเจอกับมันเป็นครั้งแรก
เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาแบบเดียวกับที่ข้าเคยได้ยินในวันที่ไปเยี่ยมศพของท่าน และเมื่อข้าหันกลับไปดูต้นเสียง ข้าถึงกับตาค้าง เพราะเจ้าของเสียงฝีเท้านั่น...
“...แกยังไม่ตายหรือ ไอ้หมาน้อย!!!”
“ลูกพี่ครับ!!! ผมรอดมาได้เพราะพวกเขาช่วยไว้ครับ”
ไอ้หมาน้อยกระโดดเข้ามากอดข้าโดยไม่อายสายตาคนที่มาด้วยกันกลุ่มใหญ่
“พวกเขาเป็นใครกัน?”
“มูร์ครับ อดีตหัวหน้ากลุ่มย่อย ลูกพี่ก็น่าจะรู้จักดีอยู่แล้วนี่ครับ”
“ขอบใจนะ มูร์”
ข้าหันไปขอบใจมูร์ที่เดินมาอยู่ข้างหลังข้าด้วยความปลื้มใจ
ทั้งเรื่องที่ไอ้หมาน้อยรอดมาได้และยังได้มูร์คนเก่าแก่ของท่านมาอยู่ข้างเดียวกันอีก
“เรื่องนั้น มันเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่ทำไว้กับพวกเรา” คงหมายถึงเรื่องที่ข้ากำจัดลูกทรพีสินะ
“อ้อ งั้นหรือ ฮ่าๆๆ เรื่องนั้นน่ะเอง ไม่ต้อง...”
เปรี๊ยะ! ข้าพยายามประคองตัวไว้ไม่ให้ล้ม
นี่มันเกิดอะไร...
เปรี๊ยะ! เสียงแบบนี้มันสตั้นกัน ใครกันที่ลอบกัดข้า ข้าน่ะเป็นหัวหน้ากลุ่มความกล้านะโว้ย
แม้จะล้มคว่ำทั้งยืนจนหน้ากระแทกพื้นเย็นๆ แต่ข้าก็ยังพยายามหันหน้ากลับไปดูว่าใครกันที่ลอบทำร้ายข้า
“สภาพดูไม่ได้เลยนะครับ ลูกพี่”
แกทำอะไรอยู่วะเฟียร์ส หน้าที่ระวังหลังของข้ามันเป็นของแกไม่ใช่...
เปรี๊ยะ!
“พอแล้ว เดี๋ยวก็ได้ตายก่อนที่จะได้รู้ความจริงกันพอดี” ความจริงอะไรกัน....“มัดมันไว้”
ข้าถูกพวกมันรุมมัดด้วยเชือกเนื้อหยาบ
“ออกมาได้แล้วทุกคน” ไอ้หมาน้อยตบมือสองครั้ง พร้อมกับมีเสียงฝีเท้ามากมายเข้ามาทุกทิศทาง
ข้าไม่สามารถเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพวกมันได้ทุกคนจึงต้องตั้งใจฟัง
“เราอยากจะถามความเห็นทุกคน ว่าควรจะทำยังไงกับ คนผู้นี้ดี
คนที่วางแผนลอบสังหารท่านและลูกชาย มิหนำซ้ำยังกวาดล้างคนที่รู้เห็นในเหตุการณ์ครั้งนั้นเพื่อที่จะปกปิดความชั่วของตัวเอง
ขึ้นเสพย์สุขท่ามกลางความเดือดร้อนของผู้เสียสละ...”
ไอ้หมาน้อยแกพูดอะไรของแก...
“แค่นั้นยังไม่พอ คนผู้นี้ยังป้ายความผิดเรื่องการลอบสังหารท่านว่าเป็นฝีมือของลูกชายของท่าน
ทุกคนก็เห็นอยู่แล้ว ว่าท่านน่ะรักลูกชาย และลูกชายท่านก็รักท่านมากเพียงใด
จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ถ้าไม่ใช่การป้ายสีคนตายเพื่อผลประโยชน์คนเป็น
”
“เลวมาก”
“แม่งชั่วจริงเว้ย”
“ชาติชั่ว”
“ทุกคนเงียบ!” เสียงนี้มัน...โซ นี่มันอยู่ฝ่ายต่อต้านข้างั้นหรือ ข้าควรจะรีบกำจัดพวกมันตั้งแต่เนิ่นๆ
“ไอ้หมาน้อย แกหุบปากเน่าๆไป พวกแกก็เลิกโง่
”
พลั่ก...ข้าถูกรองเท้าราคาถูกๆเตะเข้าทีหน้าอย่างจัง
“จับมันนั่งคุกเข่า...”
เมื่อข้าอยู่ในท่านั่ง ข้าได้เห็นหน้าทุกคนได้อย่างชัดเจน แกก็ด้วยงั้นเรอะ ฮันนา!
“เอาล่ะ
”
“แล้วท่านมีความเห็นอย่างไรบ้าง ท่านหัวหน้ากลุ่มคม”
“ข้ายินดีให้การสนับสนุนเจ้า เพราะเจ้าสามารถทำในสิ่งที่เจ้าพูด...” กลุ่มคมก็มีส่วนในเรื่องนี้ด้วย บัดซบเอ๊ย!
“แล้วท่านล่ะ ท่านหัวหน้ากลุ่มลับ” แม้แต่กลุ่มลับที่ไอ้ดัสสังกัดอยู่ นี่พวกมันก็หักหลังข้าก่อนงั้นเรอะ!
บัดซบ!บัดซบ!บัดซบ!
“ข้าไม่มีความเห็นใดๆ เพราะมันอยู่ในข้อตกลงระหว่างเราทั้งหมดแล้ว” เสียงนี้มัน...
“ถ้างั้นมีใครไม่เห็นด้วยหรือไม่ กับการที่เราจะจัดการคนผู้นี้เพื่อความยุติความบาดหมางระหว่างกลุ่ม และกับตำรวจประจำเมือง” เรื่องระหว่างกลุ่มอะไรกัน ตำรวจมันเกี่ยวอะไร?
“ไอ้หมาน้อยทำไมแก...”
พลั่ก...
“อย่าสะเออะ เรียกท่านหัวหน้าด้วยชื่อ ต่ำๆแบบนั้นนะเว้ย”
“ทะ..ท่านหัวหน้า....” นี่มันอะไรกัน?
“ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ ต่อจากนี้เราคือ หัวหน้ากลุ่มกล้าคนต่อไป เพราะเราสามารถจัดการกับปัญหาความบาดหมางระหว่างกลุ่ม
โดยการจับตัวเจ้าที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังได้ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้ากลุ่มทั้งสอง”
ไม่...ไอ้หมาน้อยที่ข้ารู้จักไม่ใช่แบบนี้...มันไม่มีทางเป็นไปได้ มันต้องไม่ใช่ไอ้หมาน้อย แล้วมันเป็นใครกัน!
“ทำไมแกทำแบบนี้...” ข้าถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา เพราะคนที่อยู่เบื้องหน้าข้าทั้งหมดไม่ใช่คนที่ข้าเคยรู้จักอีกต่อไป
แต่มันก็ยังอ่านปากข้าออกจึงเดินเข้ามากระซิบข้างหูข้าใกล้ๆทีละคน
“นั่นก็เพราะทั้งหมด...เป็นแผนที่วางไว้แต่แรกแล้วน่ะสิ” นั่นเป็นคำตอบที่ข้าไม่อยากได้ยินจากปากคนที่ข้าเคยเรียกว่าไอ้หมาน้อย
“น่าเบื่อจริงๆ แต่ก็ไม่อยากให้เจ้าสิ้นลมทั้งที่ยังมีคาใจอยู่ ความจริงแล้วเขาคือคู่พันธะสัญญาคนก่อนหน้าเจ้าน่ะ” นั่นเป็นความจริงที่ข้าไม่อยากรับรู้จากไอ้บุรุษลึกลับที่กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มลับ
“พวกแก
!!!”
....
6โมงเช้าวันต่อมา ก็ยังคงเป็นเช้าที่อากาศดีไม่ต่างจากทุกวัน
เช้าวันนี้จะต่างไปจากเช้าวันอื่นๆก็เพราะสิ่งที่กองอยู่หน้าประตูทางเข้าสำนักงานตำรวจประจำเมืองMegalopolis
“นี่ มันอะไรวะเนี่ย!”
“อี๋...”
คนที่เดินผ่านไปมาตอนเช้าถึงกับต้องเบือนหน้าหนีสิ่งนั้นที่ขวางอยู่กลางทางเดิน
สิ่งนั้น นอนแผ่พร้อมกับข้อความสีแดงแก่ที่อยู่ข้างๆว่า
[เราขอใช้ความกล้าที่มีอวยพรให้ความสงบคงอยู่ต่อไป]
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น